คอลลาเจน ดีต่อผิวจริงหรือ

  • 0 replies
  • 6756 views
คอลลาเจน ดีต่อผิวจริงหรือ
« เมื่อ: ตุลาคม 21, 2014, 10:50:39 AM »
บทความเรื่อง สุขภาพและความงามของผู้หญิง ได้นำเสนอเรื่องจริง เกี่ยวกับ คอลลาเจน ว่าที่จริงแล้ว คอลลาเจนก็เป็นแค่โปรตีนในผิวหนังที่มีคุณสมบัติทำให้ผิวเต่งตึง เมื่ออายุมากคอลลาเจนจะเสื่อมลงตามกาลเวลา

การบริโภคคอลลาเจนเข้าไปทดแทนนั้น มีส่วนช่วยให้ผิวได้เต่งตึงขึ้นจริงหรือ บทพิสูจน์ของข้อมูลนี้ ว่ามีความจริงเพียงบางส่วนเท่านั้น

เรื่องจริงคือ คอลลาเจนเป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนัง เป็นโปรตีนที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะคอลลาเจนไม่เพียงเป็นองค์ประกอบของผิวหนังเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เชื่อมเซลล์ทุกๆ เซลล์ในร่างกายไว้ด้วยกัน ทำให้เกิดเป็นเนื้อเยื่อ เป็นอวัยวะ และร่างกายที่สมบูรณ์ขึ้นมาได้ คอลลาเจนจึงมีปริมาณถึง 1 ใน 3 ของโปรตีนในร่างกาย เพราะเป็นโครงสร้างในส่วนที่ยืดหยุ่นของร่างกาย และเรื่องจริงคือ คอลลาเจนจะเสื่อมสภาพมากขึ้นเมื่อคนเรามีอายุที่มากขึ้น


และการดูดซึมโปรตีนเข้าสู่ร่างกายจำเป็นต้องผ่านกระบวนการย่อย โปรตีนทุกชนิดจะถูกเอนไซม์หลายชนิดในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กย่อยสลาย จากโปรตีนที่เป็นสายยาวจะถูกเอนไซม์ตัดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เหลือเพียงหน่วยย่อยที่เล็กที่สุด คือ กรดอะมิโน แล้วร่างกายจึงดูดซึมกรดอะมิโนเพื่อนำไปประกอบกันขึ้นใหม่เป็นโปรตีนที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้

กระบวนการนี้กระทำภายในร่างกาย เราไม่สามารถนำสิ่งจำเป็นเหล่านี้จากภายนอกเข้าไปให้ร่างกายใช้ได้ทันทีเช่นการ ทา ดื่มกิน หรือฉีด

ดังนั้น สุขภาพและความงามของผู้หญิง ที่เกีี่ยวกับคอลลาเจนนี้ ก็ต้องถูกย่อยจนกลายเป็นกรดอะมิโน ไม่เหลือสภาพความเป็นคอลลาเจน ไม่แตกต่างจากโปรตีนชนิดอื่นๆ คอลลาเจนไม่ได้ถูกดูดซึมไปทั้งเส้นแล้วตรงไปประกอบเข้าเป็นผิวหนังอย่างที่หลายคนจินตนาการจากคำโฆษณา คอลลาเจนชนิดที่ทาผิวก็ไม่สามารถดูดซึมผ่านผิวหนังได้เช่นกัน ด้วยตรรกะง่ายๆ ว่า ลำไส้ที่เป็นอวัยวะสำหรับดูดซึมสารต่างๆ จากภายนอกโดยเฉพาะยังไม่สามารถดูดซึมโปรตีนเล็กๆ สักโมเลกุล  คอลลาเจน เป็นโปรตีนที่มีขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ที่ร่างกายสร้างขึ้น ผิวหนังย่อมไม่สามารถดูดซึมได้อย่างแน่นอน


ที่สำคัญคอลลาเจนไม่ได้มีเพียงชนิดเดียวแต่ เท่าที่ค้นพบในปัจจุบันแบ่งได้เป็น 29 ชนิด แต่ละชนิดก็เป็นองค์ประกอบของเนื้อเยื่อแบบต่างๆ คอลลาเจนที่อยู่ในชั้นผิวหนังคือคอลลาเจน 1 และที่สำคัญ ผิวหนังของสัตว์แต่ละชนิดล้วนแตกต่างกัน สังเกตได้ง่ายๆ จากเนื้อหมู เนื้อไก่ และเนื้อปลา จะมีลักษณะและความยืดหยุ่นแตกต่างกัน ดังนั้นความแตกต่างของคอลลาเจนในสัตว์แต่ละชนิดจึงทำให้ไม่สามารถนำคอลลาเจนจากสัตว์อื่นๆ มาทดแทนหรือรวมเป็นองค์ประกอบในโครงสร้างผิวหนังของคนได้นั่นเอง

คอลลาเจนไม่สามารถรับจากภายนอกได้ ไม่สามารถรับจากสัตว์อื่นๆ ได้ หากต้องการให้ร่างกายมีคอลลาเจนอย่างเพียงพอ มีเพียงการบำรุงรักษากลไกของร่างกายที่ทำหน้าที่สร้างคอลลาจนเท่านั้น การบำรุงรักษานั้นเพียงแค่รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอเท่านั้นเอง วัตถุ ดิบที่จำเป็นในการสังเคราะห์คอลลาเจนเราได้รับอย่างเพียงพอจากอาหารอยู่แล้ว การออกกำลังกายเป็นการกระตุ้นให้กลไกทำงาน และการพักผ่อนช่วยให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายสึกหรอช้าลง

คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่เกิดจากกรดอะมิโนเพียงไม่กี่ชนิดเรียงตัวซ้ำไปซ้ำมา โครงสร้างส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอนคือ  [Gly-Pro-X] หรือ [Gly-X-Hyp] ซึ่งเรียงตัวกันซ้ำๆ โดย Gly คือ ไกลซีน (glycine) Pro คือ โพรลีน (proline) Hyp คือ ไฮดรอกซีโพรลีน (hydroxyproline) และ X คือ กรดอะมิโนใดก็ได้ จะเห็นว่า 1 ใน 3 ของ กรดอะมิโนที่ประกอบเป็นคอลลาเจน คือ ไกลซีน อีก 1 ใน 3 เป็นโพรลีนและไฮดรอกซีโพรลีนรวมกัน


ซึ่งกรดอะมิโนทั้งสามนี้ร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้เองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องรับจากภายนอกอีก ที่เหลือ (X) คือตำแหน่งที่มีโอกาสเป็นกรดอะมิโนใดๆ ซึ่งมีโอกาสที่จะเป็นกรดอะมิโนที่จำเป็นเพียง 8 ใน 20 หรือประมาณครึ่งหนึง ดังนั้นเมื่อคำนวณออกมาจะเห็นว่าชนิดและปริมาณของกรดอะมิโนที่จำเป็นมีสัดส่วนน้อยมากในคอลลาเจน แต่กลับอุดมไปด้วกรดอะมิโนที่ไม่จำเป็นซึ่งเมื่อร่างกายได้รับมากขึ้นก็เพียงขับถ่ายออกไปเท่านั้น

เพื่อสุขภาพและความงามของผู้หญิง จะยอมจ่ายเงินแพงๆ เพื่อบริโภคสิ่งเหล่านี้หรือ???