จากที่ทำมา มันเหมาะกับเว็บคนละประเภทกันครับ
NitroPack เหมาะกับเว็บ e-commerce ที่ไม่ติด Adsense และ Script อื่นๆ นอกจาก plugin ที่ลง (คือไม่ควรมี Script รันจากบุคคลที่ 3 มากๆ)
และของฟรีมี credit จะต้องใช้ code js วางเพื่อทำให้ส่วนนี้หายไป (ไม่เอาออกก็ได้ แต่มันจะทำให้หน้ายาวลงมาแล้วมีเครดิต nitropack โผล่มาให้เห็น)
pagespeed เร็วมาก ค่าอื่นๆ ต่ำหมด แต่ CLS สูง (ตัวฟรีแก้ไม่ได้ ต้องใช้ตัวเสียเงิน)
ข้อดี มีฟรี ลงได้กี่เว็บไม่รู้ ผมลงไป 3 เว็บยังไม่เห็นฟ้องอะไร แต่ตัวเสียเงินก็เจ๋งดี
สำหรับ code ที่ใส่เพื่อซ่อนเครดิตของ nitropack ด้านล่างเว็บ (code นี้ไม่มีผลต่อความเร็วเว็บ ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
- ใช้กับ wordpress เท่านั้น
- download plugin ที่ชื่อว่า "Simple Custom CSS and JS" มาติดตั้งก่อน
- ติดตั้ง plugin css/js แล้ว กดที่ "Add JS Code"
- ตั้งชื่อเป็นอะไรก็ได้ แล้วเพิ่ม code ด้านล่างนี้ลงไปต่อท้าย แล้ว save เป็นอันจบ เครดิตก็จะถูก display:none ไปเรียบร้อย
jQuery(document).ready(function(){
setTimeout(function(){
//var tag_new = jQuery("template").eq(38).attr("id");
var tag_new = jQuery("template").last().attr("id");
console.log(tag_new);
//alert(tag_new);
jQuery("#" + tag_new).css("display", "none");
jQuery("#" + tag_new).next().next().css("display", "none");
}, 100);
});
-------------
wp-rocket เหมาะกับเว็บทั่วไป และเว็บโฆษณาที่มี script ของบุคคลที่ 3 (เพราะเราสามารถตั้งค่า defer/preload ได้ด้วยตัวเองจากการใช้ Critical CSS)
และมีตัวเสริมอีกเพียบ แต่ต้องเสียเงินเพิ่ม
pagespeed เร็วมาก แต่ LCP สูงนิดหน่อย (แก้ได้ด้วยการไปปรับปรุงโครงสร้างหน้าเว็บให้ดีๆ และลง plugin พวก defer/preload เพิ่มเติม)
ข้อเสีย ไม่มีตัวฟรี แถมใช้ 1 เว็บต่อไลเซ่น ยกเว้นจะซื้อเหมา
หลักๆ ก็พอๆ กับ แต่ถ้าเทียบกันแล้วอยู่ที่เว็บกับระบบที่ลงในเว็บครับ
google ให้ความสำคัญกับค่า CLS / LCP พอๆ กัน (แต่ CLS จะมีฟ้องใน google search console ถี่กว่า)
ก็เลือกใช้ให้เหมาะ
----