จุดเสี่ยง ศก. เร่งเพิ่มรายรับจากการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงาน

  • 0 replies
  • 773 views
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวสะท้อนมุมมองว่า เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้เคยบอกไว้ให้ติดตามและเฝ้าระวัง ภาวะ “ขาดดุลแฝด” เท่ากับ การขาดดุลการคลังประกอบไปด้วยการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในขณะเดียวกัน

ไทยยังใช้นโยบายขาดดุลการคลัง ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2566 ที่กำหนดวงเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 695,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.88% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ส่วนตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัด ตั้งแต่มกราคมถึงสิงหาคม 2565 มีเดือนมีนาคมเพียงเดือนเดียวที่เกินดุล เดือนอื่นที่เหลือขาดดุลบัญชีเดินสะพัดต่อเนื่อง

เมื่อเจาะดูดุลบัญชีเดินสะพัดรายเดือน พบสิ่งที่น่าสนใจว่า ตั้งแต่มกราคม 2564 ถึงสิงหาคม 2565 ไทยขาดดุลบริการมาตลอดทุกเดือน ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากรายรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่น้อยลงเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ห้วงเวลาเดียวกัน ไทยยังเกินดุลการค้าทุกเดือนจนถึงมิถุนายน 2565 จนมาสองเดือนหลัง หมายความ เดือนกรกฎาคมประกอบไปด้วยสิงหาคม 2565 ที่เริ่มเกิดการขาดดุลการค้า นั่นความหมาย มูลค่าจากการนำเข้าสินค้ามากกว่ามูลค่าจากการส่งออกสินค้า ซึ่งหลักๆ เป็นผลมาจากการนำเข้าน้ำมันรวมไปถึงก๊าซปิโตรเลียมมากกว่าการส่งออก รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง



จึงเรียกได้ว่า ไทยเกิดภาวะขาดดุลแฝดต่อเนื่องมาหลายเดือน รวมไปถึงภาพรวมทั้งปี 2565 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจร่วมกับสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ ประเมินไว้ว่าดุลบัญชีเดินสะพัดมีแนวโน้มขาดดุล 7,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 266,000 ล้านบาท คิดเป็น 1.5% ของ GDP แต่ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นับถึงสิงหาคม 2565 ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลสะสมไปแล้วถึง 1,275,165 ล้านบาท มากกว่าที่สภาพัฒน์คาดไปแล้วเกือบ 5 เท่า

การขาดดุลแฝด ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะที่ไทย แต่เกิดขึ้นในหลายประเทศเช่นกัน เพราะภาวะการคลังติดลบเกือบหมด รัฐบาลต่างจำเป็นต้องอาศัยการกู้เป็นเครื่องจักรหลักในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงยังมาเจอขาดดุลการค้าจากการนำเข้าน้ำมันประกอบกับสกุลเงินที่อ่อนค่าลงอย่างมากเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การปล่อยให้อยู่ในภาวะขาดดุลแฝดนานไปย่อมไม่เป็นผลดี จำเป็นต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด รวมถึงปรับนโยบายทางเศรษฐกิจเพื่อลดการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ด้วยแนวทางลดการขาดดุลบริการ ตามที่รัฐบาลส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อเพิ่มรายรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มากขึ้น ส่วนแนวทางลดการขาดดุลการค้า พวกเราควรจะต้องทบทวนร่วมกับเอาจริงเอาจังกับแผนความมั่นคงทางพลังงานเพื่อลดสัดส่วนการพึ่งพิงการนำเข้าสินค้ากลุ่มพลังงาน

ขณะเดียวกัน นโยบายทางการคลังจากนี้ไปต้องรัดกุม หลีกเลี่ยงการกู้เงินนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.งบประมาณ ยิ่งแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ต้องตั้งงบประมาณรองรับในอนาคตก็สูงตาม จึงควรจะพิจารณาทางเลือกแหล่งเงินทุนอื่นเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เช่น การร่วมทุนกับภาคเอกชน หรือการระดมทุนด้วยกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน

ที่มา มติชนออนไลน์

เรียบเรียงใหม่จากเนื้อหาเรื่อง : ท่องเที่ยว และอย่าพลาดเรื่องราวต่าง ๆ ของที่นี่ ที่เดียว
วันนี้ที่กระบี่มีอะไร กับเรา เว็บบอร์ด กระดานข่าว กระบี่วันนี้