ไฟไหม้ห้องเก็บของ บนอาคารเรียนอายุ 28 ปี ที่ จ.ตรัง

  • 0 replies
  • 774 views
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 66 เวลา 17.00 น. ศูนย์วิทยุสื่อสารนางฟ้า หน่วยบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครตรัง ได้รับแจ้งเหตุจากเพลิงไหม้ภายในอาคาเรียนหน้าเสาธง โรงเรียนสภาราชินี 2 เลขที่ 5 ถนน ตรัง-สิเกา ตำบลบางรัก อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง

หลังรับแจ้งจึงได้สั่งการให้รถดับเพลิงของเทศบาลฯ จำนวน 1 คัน และรถดับเพลิงเล็กอีก 1 คันออกไปที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งรถดับเพลิงหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรังเข้าสนับสนุนอีกจำนวน 1 คันรวมทั้งหมด 3 คัน พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง เข้าตรวจสอบและให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

เมื่อไปถึงพบว่ามีคณะครูและนักเรียนกำลังตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ใต้อาคารเรียน คณะครูและบุคลากรจำนวนหนึ่งต่างช่วยอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่อยู่บนอาคาร ขึ้นไปชั้น 3 พบเพลิงลุกไหม้ห้องเก็บของ บริเวณชั้น 3 ซึ่งเป็นชั้นลอย อยู่เหนือห้องน้ำ เจ้าหน้าที่จึงรีบน้ำสายฉีดน้ำขึ้นไปสกัดเพลิง ก่อนใช้เวลาประมาณ 10 นาที เพลิงจึงสงบ แต่เจ้าหน้าที่ยังคงต้องฉีดน้ำเลี้ยงไว้ต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เปลวเพลิงปะทุขึ้นมาซ้ำซ้อน


ก่อนจะทำการตรวจสอบภายในห้องดังกล่าว เพลิงได้ลุกไหม้ข้าวของภายในทั้งหมด ซึ่งมีสิ่งของจำพวกเอกสาร สมุดหนังสือ เก้าอี้ ส่วนตัวโครงสร้างอาคารฝาเพดานภายในห้องและบริเวณใกล้เคียงเสียหายด้วยเช่นกัน รวมทั้งหลังคากระเบื้องถูกเพลิงไหม้จนแตกเสียหายไปหายบาน

นายศักดา ไพสมบูรณ์ ผอ.โรงเรียนสภาชินี 2 กล่าวว่า ภายหลังจากเซ็นหนังสือเสร็จ ตนออกมาจากห้องทำงานซึ่งอยู่อาคารเรียน 2 ก็เห็นควันพวกพุ่งออกมาจากหลังคาอาคารเรียนหน้าเสาธง ก็ได้ตะโกนให้นักการภารโรง และยามขึ้นมา ก่อนพบว่าเพลิงไหม้อยู่ในห้องเก็บของ นักการฯจึงได้นำน้ำมาสาด คุณครูนำถังดับเพลิงมาฉีด และนักเรียนก็ต่างช่วยกันนำถังน้ำมาช่วยกันสาดระงับเหตุเบื้องต้น

เพราะเปลวไฟกำลังพุ่งขึ้นไปบนหลังคา ซึ่งมีกระดาษหนังสือไม่ใช้แล้วอยู่ในห้องเป็นเชื้อเพลิงจำนวนมาก ก็ได้ลุกโชนขึ้นก็ต้องขอขอบคุณหน่วยบรรเทาสาธารณภัยมาถึงที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว

แต่เบื้องต้นทางครู ผอ. นักเรียนก็ได้ช่วยกันดับในเบื้องต้นแล้วด้วย ซึ่งวันนี้โรงเรียนเลิกเวลาปกติ 15.10 น. คุณครูเป็นคาบ BOC คุณครูก็ได้ประชุมพร้อมกัน เหตุการณ์เกิดประมาณ 16.45 น. ซึ่งอยู่ในช่วงหลังเลิกเรียนแล้ว ซึ่งโชคดีมากที่เหตุการณ์เกิดตอนยังมีคนอยู่ในโรงเรียน และเห็นเหตุการณ์เสียก่อน และไม่ได้ลุกลามไปใหญ่โต อีกทั้งในช่วงนั้นจะไม่ให้เด็กขึ้นมาบนอาคารเรียนแล้ว

เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากเป็นอาคารเก่า เป็นอาคารหลังแรกของโรงเรียนมีอายุกว่า 28 ปี สภาพสายไฟก็เก่าซึ่งติดมาพร้อมก่อสร้างอาคาร หลังจากนี้ก็จะให้ทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ และมีการดำเนินการตามระเบียบของกฎทรวงศึกษาธิการอีกส่วนหนึ่ง