คลื่นทะเลกัดเซาะริมหาดพระแอะ

  • 0 replies
  • 5765 views
คลื่นทะเลกัดเซาะริมหาดพระแอะ
« เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2014, 01:37:29 PM »
รายงานข่าวกระบี่แจ้งว่า เมื่อวันที่ 16 กรกฏาคม 2557 ได้มีเจ้าหน้าที่ อบต.ศาลาด่าน อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ได้เข้าตรวจสอบสภาพความเสียหายของหาดพระแอะ หลังถูกคลื่มลมแรงด้านฝั่งทะเลอันดามันถล่มอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด คลื่นชายฝั่งได้กัดเซาะชายหาดพระแอะ เกิดเสียหายหนัก ในขณะที่หาดนางทอง ที่จังหวัดพังงา ก็เสียหายไม่แพ้กัน สรุปความเสียหายแล้วหนักสุดในรอบสิบปี

ที่กระบี่ ผู้สื่อข่าวกระบี่แจ้งว่า นายสมพงษ์ ดำรงอ่องตระกูล นายก อบต.ศาลาด่าน อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ได้ทำการตรวจสอบสภาพความเสียหายของชายหาดพระแอะ หลังโดนคลื่นลมแรงกัดเซาะจนสิ่งก่อสร้างริมหาดพังเสียหายในช่วงฤดูมรสุม 2-3 วันที่ผ่านมานั้น

โดยชายหาดแห่งนี้ ถือเป็นชายหาดเพียงแห่งเดียวของเกาะลันตาที่เป็นที่สาธารณะ แต่ถูกคลื่นซัดเสียหายอย่างหนักสุดในรอบ 10 ปีมานี้ และปัจจุบันก็ยังโดนน้ำกัดเซาะจนโคนต้นสนโผล่พ้นทรายใกล้โค่นอีกหลายต้น

เกรงว่าหากปล่อยทิ้งไว้แบบนี้อีกไม่นานต้นสนริมหาดหลายต้นอาจล้มตายไปเป็นจำนวนมาก โดยในเบื้องต้นการตรวจสอบ ก็พบว่าคลื่นได้กัดเซาะเข้ามาเรื่อยๆ โดยแต่ละลูกมีความสูงไม่ต่ำกว่า 3 เมตร นายสมพงษ์ กล่าว


นายสมพงษ์ ยังได้เผยข้อมูลในเรื่องนี้อีกว่า ปัจจุบันยังได้เกิดภาวะน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในหมู่ 8 ต.ทับปริก และบ้านเรือนของชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองกระบี่ ประมาณ 30 หลัง ล่าสุดนี้สถานการณ์น้ำลดระดับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยให้ชาวบ้านได้เก็บกวาดสิ่งปลูกสร้างที่หักพัง และงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ ก็ได้ออกประกาศเตือนประชาชนเฝ้าระวังน้ำท่วมดินถล่ม และคลื่นลมแรงต่อไปจนถึงสิ้นเดือนนี้

ทางด้านจังหวัดพังงาก็มีรายงานจากข่าวกระบี่ด้วย โดยมีความคืบหน้าน้ำทะเลกัดเซาะชายหาดนางทอง อ.ตะกั่วป่า โดยได้รับรายงานว่าที่บริเวณชายหาดตั้งแต่หน้าสวนสาธารณะนางทอง น้ำทะเลได้กัดเซาะชายหาดลึกเข้าจนถึงตัวอาคารร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ก่อสร้างด้วยโครงสร้างแข็งแรง ก่ออิฐฉาบด้วยปูน เริ่มทรุดตัวแล้ว


โดยฐานรากของสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่บางหลังได้โผล่อย่างเห็นได้ชัด และบังกะโลที่เป็นที่พักของนักท่องเที่ยวซึ่งอยู่ใกล้ๆ กันนั้นก็ถูกน้ำทะเลกัดเซาะเข้ามาเกือบจะถึงตัวอาคารแล้ว โดยห่างเพียงแค่ 5 เมตร และบางหลังเริ่มทรุดตัวลงเช่นกัน

สำหรับหาดนางทองนั้น ถือเป็นชายหาดที่ได้รับความเสียหายจากคลื่นซัดกัดเซาะอย่างหนักอีกที่หนึ่ง เพราะแนวกันคลื่นที่ทำจากท่อปูนวางเป็นแนวยาว มีการชำรุดและหลุดลอยกระจัดกระจายอยู่ตามหน้าหาดเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสร้างไว้นานแล้ว และในช่วงที่น้ำทะเลลดลงสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

สำหรับความเสียหายในครั้งนี้ถือเป็นความเสียหายหนักสุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว ทางชาวบ้านจึงฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาแก้ปัญหาการกัดเซาะชายหาดแบบจริงจังโดยด่วน เพราะสถานที่ทั้งสองแห่งเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทชั้นนำ โรงแรมระดับ 4-5 ดาวหลายแห่ง มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมาเที่ยวพักผ่อนนับแสนคนในแต่ละปี หากไม่มีการซ่อมแซม เกรงว่าอนาคตอาจเกิดผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวก็เป็นได้