• Welcome to กระบี่วันนี้ ทุกเรื่องของจังหวัดกระบี่.
 

โรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกูล

เริ่มโดย เด็กกระบี่, มิถุนายน 07, 2014, 07:40:21 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

เด็กกระบี่

โรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกูล ถือเป็นสถานศึกษาในกระบี่ขนาดใหญ่และชื่อดังของจังหวัดกระบี่เลยทีเดียว โดยโรงเรียนนี้จัดได้ว่าเป็นโรงเรียนมัธยมชื่อดังในจังหวัด

สถานที่ตั้ง เลขที่10 ถนนกระบี่ ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ สำหรับแห่งนี้ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พุทธศักราช 2452 โดยพระยาอิศราธิชัย หรือ หมี ณ ถลาง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่อยู่ในขณะนั้น ซึ่งสร้างขึ้นเขตวัดแก้วโกรวาราม โดยมีพ่อค้า ประชาชน ในจังหวัดกระบี่ร่วมกันออกกำลังทรัพย์ กำลังกายในการก่อสร้าง

ประวัติสถานศึกษาในกระบี่แห่งนี้

โรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกูลจัดสร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2452 เนื่องจากขณะนั้นกระทรวงธรรมการ (กระทรวงศึกษาธิการ) ต้องการให้ทุกจังหวัดตั้งโรงเรียนหลวงขึ้น พระยาอิศราธิชัย หรือ หมี ณ ถลาง ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ในขณะนั้น จึงได้ริเริ่มสร้างโรงเรียนหลวงขึ้นในเขตวัดแก้วโกรวาราม โดยมีพ่อค้า คหบดีและข้าราชการ ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันสร้างโรงเรียนแห่งนี้ขึ้น ให้ชื่อว่า "โรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกูล" โรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกูล เป็นอาคารไม้ชั้นเดียว ใต้ถุนสูงประมาณเมตรเศษ ทรงหลังคาแบบปั้นหยา มุงสังกะสี มี 4 ห้องเรียนตั้งอยู่ที่ตั้งศาลาการเปรียญปัจจุบันนี้


เปิดรับนักเรียน ชั้นประถมปีที่ 1-3 และมัธยมปีที่ 1-3 ตลอดมา เมื่อมีนักเรียนเพิ่มขึ้นก็สร้างอาคารชั่วคราวชั้นเดียวขึ้นอีกหลัง ในบริเวณใกล้ๆกัน เป็นสโมสรลูกเสือและห้องเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 กาลเวลาล่วงเลยไปตามลำดับ อาคารแห่งนี้ชำรุดทรุดโทรม คณะผู้บริหารการศึกษาของจังหวัดกระบี่ มีความเห็นร่วมกัน และดำเนินการสร้างอาคารเรียนขึ้นในที่ดินของโรงเรียนเดิม ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงเรียนในปัจจุบันนี้ ที่ดินแห่งนี้เป็นที่ดินของโรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกูล ซึ่งพระยาอิศราธิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นผู้สงวนไว้สำหรับสร้างโรงเรียนประจำจังหวัดโดยเฉพาะ

อาคารหลังนี้เป็นอาคารไม้ 2 ชั้น เสาคอนกรีต หลังคาทรงปั้นหยามุงกระเบื้อง ชั้นล่างปล่อยไว้โล่งๆ และต่อมากั้นเป็นฝาขัดแตะ

พุทธศักราช 2482 นักเรียนยังแยกกันอยู่ทั้ง 2 ฝ่าย คือ ม.1-3 เรียนอาคารเดิมที่วัดแก้ว ส่วน ม.4-6 เรียนอาคารใหม่ โดยมีนายเนิ่น เกษสุวรรณเป็นครูใหญ่ในขณะนั้น


เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้น ประเทศไทยต้องยอมเป็นฝ่ายพันธมิตรกับฝ่ายอักษะ กองทัพญี่ปุ่นต้องมาตั้งฐานทัพในประเทศไทยและกระบี่คือจุดยุทธศาสตร์สำคัญฝั่งอันดามัน

ในเดือนธันวาคม พุทธศักราช 2484 ทหารญี่ปุ่นยึดโรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกูลเป็นฐานทัพ โรงเรียนจึงต้องหยุดเรียนไปโดยไม่มีวันกำหนดเปิด ในขณะนั้นนายกล่อม สัจจะบุตรเป็นครูใหญ่ ปีพุทธศักราช 2485 นักเรียนม.1-3 ย้ายมาเรียนรวมกัน ที่อาคารหลังขาว 2 ชั้น และในช่วงนี้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดกระบี่

ในวันที่ 25 มีนาคม พุทธศักราช 2489 เวลาประมาณ 21.00 น. เกิดเพลิงไหม้สถานศึกษาในกระบี่แห่งนี้ ไฟไหม้อย่างรุนแรงและรวดเร็ว ไม่มีใครช่วยได้ ทะเบียนหลักฐาน อุปกรณ์การศึกษา รวมทั้งสิ่งมีค่าทางประวัติศาสตร์กลายเป็นเถ้าถ่าน วันรุ่งขึ้นเป็นวันประกาศผลสอบ นักเรียนเข้าแถวใต้ต้นกอใหญ่ หน้าซากอาคารเรียน ฟังครูประจำชั้นประกาศผลมีผู้สอบได้กับไม่ได้เท่านั้น ใครได้กี่เปอร์เซ็นนั้นไม่มีหลักฐาน


เมื่อโรงเรียนเปิดใหม่ปีการศึกษา2489 นักเรียนได้เลขประจำตัวใหม่ทุกคน นายกล่อมสัจจะบุตร ย้ายไปจังหวัดตรัง นายประพฤทธิ พิเศษศิลป์ เป็นครูใหญ่แทน ขออาศัยเรียนที่โรงเรียนเทศบาล (โรงเรียนอุตรกิจ) เป็นการชั่วคราว จนปีพุทธศักราช 2492 เมื่อจังหวัดกระบี่ได้รับงบประมาณสร้างอาคารใหม่ ทำการสร้างในที่ดินเดิมเมื่อสร้างเสร็จก็ย้ายกลับมาที่โรงเรียนประจำจังหวัดกระบี่อีกครั้ง และแล้วจังหวัดกระบี่ได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น "โรงเรียนกระบี่อำมาตย์พานิชนุกูล" และในที่สุดก็เปลี่ยนชื่อโรงเรียนตามศิลาจารึกว่า "โรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกูล" จนถึงทุกวันนี้

บุคคลสำคัญที่ต้องจดจำและจารึกไว้ตลอดกาล คือ พระคุณเจ้า "พระสุตกวี" และเจ้าอาวาสวัดแก้วโกรวารามผู้อุปถัมภ์ค้ำชูโรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกูล ตั้งแต่สมัยที่โรงเรียนตั้งอยู่ในวัดจนตราบเท่าปัจจุบัน ท่านพระยาอิศราธิชัย (หมี ณ ถลาง) นั้น ท่านเป็นผู้ให้กำเนิดโรงเรียนและกำหนดอนาคตของโรงเรียนไว้อย่างเหมาะสมถูกต้อง


ปัจจุบันโรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกูลเป็นสถานศึกษาระดับมัธยมขนาดใหญ่ มีนักเรียนกว่า 3000 คน เพียบพร้อมไปด้วยสื่อการเรียนเทคโนโลยีที่ทันสมัย เป็นศูนย์กลางการศึกษาของจังหวัดกระบี่ เป็นโรงเรียนที่สามารถผลิตนักเรียนที่มีคุณภาพอีกโรงเรียนหนึ่ง

ด้านการเรียนการสอนของโรงเรียนอำมาตย์ได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมีการส่งเสริมในการเข้าร่วมแข่งขันในด้านทักษะทางวิชาการ ความสามารถพิเศษของนักเรียน จนได้รับรางวัลมากมายอย่างต่อเนื่อง

ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2552 ครบ 100ปี อำมาตย์พานิชนุกูล