รายงานล่าสุดจากเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจป่าไม้ ว่าได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าสลายกลุ่มชาวบ้าน ที่ยึดสวนปาล์มหมดสัมปทาน ที่อำเภอปลายพระยาแล้ว พร้อมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างด้วย
เมื่อเวลา 10.00 น. ของ
ข่าวกระบี่วันที่ 15 ก.ย. 57 นั้น นำโดย พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล ผบก.ภ.จว.กระบี่ พ.อ.จรูญ จตุรงค์ ผบ.ร.15 พัน.1 คลองท่อม กับนายบุญสืบ สมัครราช ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่
พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ อส. รวมประมาณ 850 นาย ได้เคลื่นที่เข้าพื้นที่สวนปาล์มหมดสัมปทานหมู่ที่ 8 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ของบริษัท ยูนิวานิช จำกัด มหาชน
โดยจุดประสงค์คือต้องการสลายกลุ่มเกษตรกรที่ไร้ที่ดินทำกินเข้ายึดไปก่อนหน้าโดยการปลูกสร้างบ้านพักเนื้อที่ประมาณ 2,000 ไร่ จากทั้งหมดมีเนื้อที่รวมกว่า 10,000 ไร่
จากรายงาน
ข่าวกระบี่แจ้งว่า เจ้าหน้าที่ใช้วิธีการให้เจ้าหน้าที่ทหารคอยเป็นกำลังดูแลความปลอดภัย พร้อมด้วยตำรวจและให้ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เป็นผู้เข้าจับกุมชาวบ้านที่ไม่ยอมออกจากพื้นที่
เบื้องต้นชาวบ้านไม่ได้ขัดขืนใดๆ และบางส่วนได้ขนข้าวของทรัพย์สินขึ้นรถออกจากพื้นที่แล้ว โดยยังมีชาวบ้านที่ถูกจับกุมในครั้งนี้มีประมาณเกือบ 100 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทีม
ข่าวกระบี่วันนี้ยังได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบจนไม่พบกลุ่มชาวบ้านแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ได้ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านพักประมาณ 50 หลัง และขนำอีกประมาณ 100 หลัง และในส่วนของชาวบ้านที่ถูกจับกุมก็บอกว่าอยากจะเรียกร้องให้ทางรัฐบาลเร่งจัดสรรที่ดินทำกินโดยเฉพาะพื้นที่หมดสัมปทานที่มีอยู่กว่า 7 หมื่นไร่ในจ.กระบี่ ตามมติ ครม.ปี 2546 ด้วยเพื่อพวกเค้าจะได้มีที่ดินทำกินต่อไป
ขณะที่นายบุญสืบ สมัครราช ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ ได้กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้เพื่อทวงคืนพื้นที่กลับมาก่อน เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่า หลังจากนี้คงต้องให้รัฐบาลตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ส่วนกรณีของบริษัท ยูนิวานิช ที่มีการขออนุญาตเก็บหาของป่าและทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่และเป็นเจ้าของพื้นที่สัมปทานดังกล่าง โดยทางจังหวัดได้อนุญาตไปแล้ว ก็คงต้องปล่อยให้ดำเนินการจนกว่าจะหมดอนุญาต
ต่อมาเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เข้ารื้อถอนบ้านพัก และขนำในสวนปาล์มน้ำมัน รวม 100 หลัง ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 วัน ขณะที่ชาวบ้านที่ถูกควบคุมตัวนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาที่ศาลาประชาคมอำเภอปลายพระยา
โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และป่าไม้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ ศูนย์พัฒนาสังคมหน่วยที่ 1 จ.กระบี่ และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและคนชรา จ.กระบี่ เข้ามาทำการตรวจสอบประวัติ ซึ่งพบว่ามีเด็ก 6 คนด้วย ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติต่อไป
รายงานความคืบหน้า
ข่าวกระบี่จะนำเสนอต่อไป
ที่มาข่าว
http://www.thairath.co.th/content/450377