โรงแรมใน กทม. กระบี่ พัทยา ภูเก็ต หัวหิน แห่กันขายนายทุน ปิดดีลกันหมื่นล้าน

  • 0 replies
  • 695 views
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2566 นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด ได้เปิดเผยว่า ภาพรวมการซื้อขายโรงแรมในประเทศไทย ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2566 มีการซื้อขาย 5 แห่ง จำนวน 1,550 ห้องพัก มีมูลการซื้อขายกว่า 10,280 ล้านบาท

ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองท่องเที่ยว เช่น กระบี่ พัทยา ภูเก็ต กรุงเทพมหานคร และ หัวหิน โดยการซื้อขายมีทั้งจากดีเวลลอปรายใหญ่และกองทุน นอกจากนี้ยังมีโรงแรมที่อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อขายอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2566 มูลค่าการซื้อขายโรงแรมในประเทศไทยอาจปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ประมาณ 15,000 ล้านบาท

นายภัทรชัยกล่าวว่า เนื่องจากพบว่าตลาดโรงแรมไทยยังคงได้รับความสนใจสูงจากนักลงทุนทั้งในกลุ่มคนไทยกันเองและต่างชาติ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ที่พบว่ามีการปิดดีลการซื้อขายโรงแรมกันอย่างคึกคัก และยังคงมองหาหาโรงแรมที่ราคาเหมาะแก่การลงทุน บนทำเลศักยภาพโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ภูเก็ต สมุย พัทยา และเชียงใหม่ เป็นต้น เพื่อนำมาปรับปรุงและเปิดบริการอีกครั้งในอนาคต

ความต้องการซื้อโรงแรมของนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติในประเทศไทย จะยังคงมีอย่างต่อเนื่อง เพราะในช่วงก่อนหน้าอุปทานโรงแรมที่มีเสนอขายอยู่ในตลาดค่อนข้างมีอยู่อย่างจำกัด แต่พบว่าหลังจากวิกฤตการแพร่ระบาดโควิด-19 มีผู้ประกอบการหลายรายเลือกที่จะนำโรงแรมออกมาเสนอขายกันมากขึ้น

นายทุนไล่ซื้อโรงแรม ปิดดีลพุ่งหมื่นล้าน ในกรุงเทพฯ กระบี่ พัทยา ภูเก็ต และหัวหิน

ทั้งในส่วนของโรงแรมในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ ดังนั้นในภาวะเช่นนี้จะเป็นโอกาสที่ดีของนักลงทุนที่มีความพร้อม สนใจเข้าซื้อโรงแรมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวหลังจากวิกฤตโควิดคลี่คลาย และหลายประเทศทั่วโลกยังคงมองว่าประเทศไทยยังคงที่ปลอดภัยและน่าท่องเที่ยว

ซึ่งธุรกิจโรงแรมยังขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอนาคตและอาจส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายโรงแรมในประเทศไทยอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต

ด้าน น.ส.ธิดา เชิดสุริยา ประธานกรรมการบริหาร บริษัทในเครือออเนอร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมย่านพัทยา ได้กล่าวว่า นับตั้งแต่ช่วงโควิดมีการเปลี่ยนมือซื้อขายโรงแรมในพื้นที่พัทยาอยู่มากพอสมควร

ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมที่มีใบอนุญาต และมีโรงแรมหลายแห่งมาเสนอขายให้บริษัท กระจายในทำเลพัทยา นาเกลือ และจอมเทียน แต่บริษัทไม่ได้ซื้อ เพราะเมื่อพิจารณาดูทรัพย์แล้ว ยังไม่เจอที่ถูกใจ และด้วยนโยบายบริษัทมองว่าการลงทุนพัฒนาใหม่จะดีกว่า

อย่างไรก็ตามหลังโควิดคลี่คลายทำให้ธุรกิจโรงแรมพัทยาเริ่มฟื้นตัว อย่างโรงแรมของบริษัทมีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 80-90% และราคาค่าห้องอยู่ที่กว่า 2,000 บาทต่อคืน ซึ่งราคาห้องช่วงหลังโควิดจะสูงกว่าก่อนโควิด โดยลูกค้ามาพักเป็นคนไทย 50% และต่างชาติ 50% เช่น รัสเซีย อินเดีย เกาหลี เวียดนาม ส่วนจีนเริ่มเข้ามามากขึ้นอีก 2-3 เดือนข้างหน้า