ท่าเทียบเรือถ่านหินบ้านคลองรั้ว

  • 2 replies
  • 5784 views
ท่าเทียบเรือถ่านหินบ้านคลองรั้ว
« เมื่อ: กันยายน 25, 2014, 03:44:12 PM »
รายงานจากทีมข่าวกระบี่แจ้งเข้ามาว่า ที่เหนือคลอง ได้มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งเตรียมยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง กรณีที่ กฟผ.จัดทำรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ในโครงการท่าเทียบเรือถ่านหินบ้านคลองรั้ว ไม่เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย

โดยน.ส.สมฤดี ปานศุทธะ ผู้ประสานงานกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยกับแหล่งข่าวกระบี่ว่า เมื่อวันที่ 26 กันยายนนี้ เวลา 11.00 น. กลุ่มกรีนพีซพร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านในอำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่

จะทำการยื่นฟ้องคดีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในกระบวนการการจัดทำรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพโครงการท่าเทียบเรือถ่านหินบ้านคลองรั้ว ณ ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร

โครงการท่าเทียบเรือถ่านหินบ้านคลองรั้วของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเพื่อขนถ่ายถ่านหินนำเข้าจากอินโดนีเซีย ออสเตรเลียหรือแอฟริกามาเป็นเป็นเชื้อเพลิงในโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกำลังผลิตติดตั้ง 870 เมกะวัตต์ จุดของโครงการท่าเทียบเรือตั้งอยู่ ณ ต.ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่


ขณะนี้ โครงการท่าเทียบเรือถ่านหินบ้านคลองรั้วอยู่ระหว่างการดำเนินการจัดทำเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียในการทบทวนร่างรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมครั้งที่ 3 โดยเวทีรับฟังความคิดเห็นจะจัดขึ้นในวันที่ 28 กันยายนนี้ ที่ อ.เหนือคลอง จ.กระบี่


โดยพบว่ากระบวนการจัดทำรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพโครงการท่าเทียบเรือถ่านหินบ้านคลองรั้ว 2 ครั้งที่ผ่านมาไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยจะเผยแพร่รายละเอียดให้ทราบในวันที่ 26 กันยายน 2557 นี้

สำหรับความคืบหน้าทีมข่าวกระบี่จะรายงานอย่างต่อเนื่อง



Re: ท่าเทียบเรือถ่านหินบ้านคลองรั้ว
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 25, 2014, 03:48:49 PM »
ด้าน หมอสุภัทร กอดคอ ศิริชัย ไม้งาม ถามชาวกระบี่ก่อนหนุนถ่านหิน ขาหุ้นฯ หมดหวังเวทีปฏิรูปพลังงาน

ที่ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ “หมอสุภัทร” เชื่อ “ศิริชัย ไม้งาม” ออกโรงหนุนโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ เพราะขาดข้อมูล ไม่รู้ความต้องการที่แท้จริงของคนในพื้นที่ แนะลงพื้นที่สักครั้ง เชื่อจะเกิดความเข้าใจว่าคนกระบี่ต้องการพัฒนาพื้นที่อย่างไร ด้านผู้ประสานงานเครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน ชี้เวทีปฏิรูปพลังงานซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 2 ไม่ใช่ที่พึ่งของภาคประชาชน
       
เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2557 นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล อ.จะนะ จ.สงขลา เปิดเผยว่า ในนามของเครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน มองปรากฏการณ์กรณีที่นายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตหางประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์โดยมีเนื้อหาสนับสนุนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินใน จ.กระบี่ ซึ่งมีการเผยแพร่ผ่านทางโซเชียลมีเดียออนไลน์ เป็นจำนวนมากในขณะนี้

นพ.สุภัทร กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากมุมมองของคนใน กฟผ.ที่มองในมุมของผู้ผลิตเพียงด้านเดียว เนื่องจากพลังงานไฟฟ้าเป็นสินค้าที่มีความต้องการมากเมื่อผลิตได้มากจึงยิ่งมีกำไรมาก แต่ทาง กฟผ.ควรเข้าใจความต้องการของชาวบ้านในพื้นที่ ก่อนตัดสินใจเดินหน้าโครงการนี้ เพราะผลที่ได้อาจไม่คุ้มกับที่เสียไป เนื่องจากในขณะนี้ประชาชนใน จ.กระบี่ มีการรวมตัวกันอย่างเป็นเอกภาพ ทุกคนมีแนวทางและยุทธศาสตร์ชัดเจนว่าจะมุ่งไปในทางเกษตรกรรม การท่องเที่ยว และการประมงเพื่อความยั่งยืน
       
“กฟผ.คิดสั้น หากคิดที่จะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่อันดามัน ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศที่จะสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้แก่ประเทศชาติ แต่แนวคิดในการสร้างโรงไฟฟ้าหรืออุตสาหกรรมใดก็ตามแต่ล้วนแล้วแต่มีความอ่อนไหวแทบทั้งสิ้นต่อสภาพธรรมชาติของกระบี่ที่ทุกวันนี้มีความบริสุทธิ์ดึงดูดให้คนมาเที่ยว และนำรายได้เข้ามาให้แก่ประเทศไทย และคนในชุมชน”

อ่านเพิ่มเติมที่ http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000110155

Re: ท่าเทียบเรือถ่านหินบ้านคลองรั้ว
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 27, 2014, 04:45:45 PM »
อารีพงศ์หนุนตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่

ปลัดพลังงานย้ำภาคใต้ต้องมีโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ปริมาณก๊าซฯ ไม่เพียงพอต้องนำเข้าแอลเอ็นจีที่แพง ไม่เหมาะสม หนุนตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ในปัจจุบันการผลิตไฟฟ้าในภาคใต้ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยว โรงแรมมีความต้องการใช้ขยายตัวถึงร้อยละ 10 ต่อปี โดยกำลังผลิตไฟฟ้ารวมในภาคใต้มีประมาณ 2,400 เมกะวัตต์ ความต้องการใช้อยู่ที่ 2,600 เมกะวัตต์ ต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากภาคกลางถึงร้อยละ 16

จำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ พร้อมๆ กับการเดินหน้าโครงการส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่พลังงานทดแทน โดยโรงไฟฟ้าใหม่พลังงานหลัก จำเป็นต้องใช้ถ่านหินนำเข้า เพราะก๊าซธรรมชาติไม่เพียงพอ หากนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจีก็จะกระทบต่อค่าไฟฟ้าให้มีราคาแพงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับถ่านหินนำเข้า

ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีถ่านหินสะอาดนั้นเป็นที่ยอมรับทั่วโลกว่าป้องกันมลพิษได้ และการประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียนเมื่อเร็วๆ นี้ทุกประเทศก็จะผลักดันโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาดเพื่อนำมาใช้ในอนาคตมายิ่งขึ้น

นายอารีพงศ์กล่าวว่า โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ 800 เมกะวัตต์จะเป็นเทคโนโลยีถ่านหินสะอาด ไม่สร้างมลพิษ ซึ่งก่อสร้างในพื้นที่เดิมที่เคยเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินมาก่อน และการก่อสร้างใหม่นี้ก็อยู่ในระหว่างการจัดรับฟังความคิดเห็นประชาชนเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (อีเอชไอเอ) ซึ่งจะต้องทำ 3 ครั้งก่อนที่จะเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณาเห็นชอบต่อไป โดยตามแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว (พีดีพี) โรงไฟฟ้าจะก่อสร้างแล้วเสร็จเข้าระบบในปี 2562

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 26 ก.ย. 57 กลุ่มองค์กรเอกชนและประชาชนบางส่วนในพื้นที่จังหวัดกระบี่ได้ยื่นฟ้องศาลปกครองเพิกถอนโครงการท่าเทียบเรือบ้านคลองรั้ว ที่จะเป็นพื้นที่นำเข้าถ่านหินสำหรับโรงไฟฟ้ากระบี่ ขณะที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโครงการท่าเทียบเรือบ้านคลองรั้ว ครั้งที่ 3 (ค.3) ในวันที่ 28 ก.ย.นี้ เพื่อนำเสนอผลการวิเคราะห์ผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชี้แจงมาตรการป้องกันแก้ไขและติดตามตรวจสอบผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเพื่อนำมาประกอบการพิจารณากำหนดมาตรการป้องกัน การแก้ไขผลกระทบ และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาโครงการให้เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่นและการยอมรับจากชุมชนที่ยั่งยืนต่อไป

http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9570000111042